ผีเสื้อบินจ้า!!!!

ดุ๊กดิ๊กหัวใจ

การแข่งขันทักษะวิชาการโรงเรียนมีสิทธิ์ศึกษา

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552


ใบงานที่ 6ประโยชน์และวิธีการใช้ของgoogle
ปัจจุบันไม่ว่าจะสืบค้นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็สามารถค้นหาได้จากอินเตอร์เน็ต จากเครือข่ายนะดับที่กว้างไกล (Web World Wide) ซึ่งมีโปรแกรมที่ให้บริการในเรื่องการสืบค้นข้อมูลคือ ราเซอร์เว็บเบ การสืบค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมีเครื่องมือช่วยในการค้นหาเรียกว่า เครื่องมือค้นหา สามารถซึ่งทำให้การค้นหาได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น เครื่องมือค้นหา เว็บไซต์เป็น (เว็บไซต์) ที่รวบรวมเว็บไซต์ต่างๆทุกชนิดเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การค้นหาสามารถทำได้สะดวกเพียงพิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหาใน เครื่องมือค้นหา แล้วกดปุ่ม ไป หรือปุ่มค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศที่ต้องการก็จะปรากฏบนหน้าจอ เว็บไซต์ที่ค้นหาข้อมูลสามารถแบ่งเป็น 2 คือประเภท1. เครื่องมือค้นหา คือ เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่ใช้โปรแกรมอัตโนมัติรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆ เหมาะที่จะค้นหาข้อมูลประเภทเจาะจงมากๆ2. ไดเรกทอรีค้นหา คือ เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่ใช้คนในการรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆ และแต่ละเว็บเพจได้รับการจัดเป็นหมวดหมู่ที่เหมาะสม ตัวเชื่อมที่ใช้เพื่อการค้นหาข้อมูลมีดังนี้AND ค้นหาเฉพาะเว็บเพจที่มีคำทั้งสองคำอยู่ด้วยกันOR ค้นหาเว็บเพจที่มีคำใดคำหนึ่งหรือมีทั้งสองคำNOT ค้นหาเว็บเพจที่ไม่มีคำนี้อยู่หรือจะใช้เครื่องหมายดอกจัน (*) ในคำที่ใช้ค้นหาก็ได้"" ให้ค้นหาเฉพาะเว็บเพจที่มีประโยคที่อยู่ในเครื่องหมายดังกล่าวใกล้ / n เว็บเพจซึ่งมีค้นหา 2 คำที่เราใช้ในการค้นหาอยู่ใกล้กันภายใน n

ในคำเนื้อหาการสืบค้นด้วย เกิลกู ในระดับสูง 1. ในเข้าไป Google.com

2. เลือกวิธีการค้นหาในระดับสูง

3. ระบุคำหรือสิ่งที่ต้องการค้นหา

4. ระบุจำนวนสิ่งที่เราค้นหาให้ปรากฏบนหน้าจอ

5. ระบุชนิดของไฟล์ที่ต้องการค้นหา

เขียนโดยsaynumtara


ใบงานครั้งที่ 4 วิเคราะห์การจัดการความรู้
  1. การจัดการความรู้คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด 1. ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน หรือเรียกว่าเป็นความรู้แบบนามธรรม 2. ความรู้ที่ชัดแจ้ง
  2. ขั้นตอนการจัดการความรู้ (1) การกำหนดความรู้หลักที่จำเป็นหรือสำคัญต่องานหรือกิจกรรมของกลุ่มหรือองค์กร 2)การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ(3) การปรับปรุง ดัดแปลง หรือสร้างความรู้บางส่วน ให้เหมาะต่อการใช้งานของตน(4) การประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการงานของตน(5) การนำประสบการณ์จากการทำงาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสกัด “ขุมความรู้” ออกมาบันทึกไว้(6) การจดบันทึก “ขุมความรู้” และ “แก่นความรู้” สำหรับไว้ใช้งาน และปรับปรุงเป็นชุดความรู้ที่ครบถ้วน ลุ่มลึกและเชื่อมโยงมากขึ้น เหมาะต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
  3. แหล่งข้อมูลแหล่งข้อมูล คือ สถานที่ที่สามารถ ค้นคว้า สืบค้น เรียนรู้ ข้อมูลต่างๆแต่ละประเภทตามที่เราต้องการและอยู่ในรูปลักษณะที่ แตกต่างกันออกไป ตามที่แหล่งข้อมูลนั้นๆจะนำเสนออกมายิ่งในปัจจุบันจะมีรูปแบบในการนำเสนอ ที่หลากหลายมาก จนเราตามไม่ทันและมีข้อมูลมากมายมหาศาล ให้เราได้เรียนรู้ สืบค้น ค้นคว้า มาใช้ในการเรียนและงานต่างๆมากมาย
  4. เครือข่ายการเรียนรู้ (Learning Network)หมายถึง การแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ข้อมูลข่าวสาร ประสบการณ์ และการเรียนรู้ระหว่างบุคคล กลุ่มบุคคล องค์การ และแหล่งความรู้ที่มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จนเป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน ส่งผลให้เกิดการเผยแพร่และการประยุกต์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาชีพหรือทางสังคม
  5. สารสนเทศสามารถหมายถึงคุณภาพของข้อความจากผู้ส่งไปหาผู้รับ สารสนเทศจะประกอบไปด้วย ขนาดและเหตุการณ์ของสารสนเทศนั้น สารสนเทศสามารถแทนข้อมูลที่มีความถูกต้องและความแม่นยำหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งข้อเท็จจริงหรือข้อโกหกหรือเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น สารสนเทศจะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ส่งข้อความและผู้รับข้อความอย่างน้อยฝ่ายละหนึ่งคนซึ่งทำให้เกิดการสื่อสารของข้อความและเข้าใจในข้อความเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับ ความหมาย ความรู้ คำสั่ง การสื่อสาร การแสดงออก และการกระตุ้นภายใน

ใบงานชิ้นที่ 2 งานชิ้นที่ 1 การจัดนวัตกรรมและสารสนเทศ
ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนมีสิทธิ์ศึกษา
สถานที่ตั้ง 3 หมู่ที่ 9ตำบลฉลอง อำเภอสิชล
จังหวัดนครศรีธรรมราช
....................................................
.................................................
ชื่อเรื่อง การจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศเพื่อการบริหารงานในโรงเรียนมีสิทธิ์ศึกษา
สารสนเทศเพื่อการบริหารโรงเรียน หมายถึง กลุ่มข้อมูลหรือสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับภาระงานของโรงเรียนทั้ง 4 งาน ได้แก่ งานวิชาการ การบริหารบุคคล งานบริหารการเงิน และงานบริหารทั่วไปผู้บริหารโรงเรียนสามารถนำสารสนเทศดังกล่าวมาพิจารณาวิเคราะห์ใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้ ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
1. ช่วยในการวางแผน โรงเรียนจำเป็นต้องมีการวางแผนงานด้านต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้า จึงต้องอาศัยสารสนเทศเรื่องต่าง ๆ ประกอบในการวางแผน เพื่อมิให้เกิดความผิดพลาดได้
2. ช่วยในการตัดสินใจ การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะต้องกระทำอยู่ตลอดเวลา สารสนเทศที่มีความพร้อมจะเรียกใช้ได้ตลอดเวลา จะช่วยให้การตัดสินใจของผู้บริหารถูกต้องและรวดเร็ว
3. ช่วยในการปรับปรุงหน่วยงาน เช่น โรงเรียนจะทำการขยายห้องเรียนเพิ่ม จำเป็นต้องใช้สารสนเทศเกี่ยวกับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าใด ค่าใช้สอยในการก่อสร้าง สถานที่ที่จะเพิ่มห้องเรียนอยู่ในส่วนใด เป็นต้น
4. ช่วยในการควบคุมปฏิบัติงาน สารสนเทศจะเป็นตัวชี้บอกว่างานนั้นๆ เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือได้มาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่ สารสนเทศจะช่วยในการพิจารณาวิธีการกำหนดบุคลากรเข้าสู่ตำแหน่งว่ามีความเหมาะสมเพียงใด หรือใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาการปรับขั้นเงินเดือน
5. ช่วยในการประชาสัมพันธ์โรงเรียนให้เป็นที่รู้จักของชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แสดงประมาณนักเรียนที่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หรือจำนวนนักเรียนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด
การจัดแนวทางปฏิบัติในการจัดการระบบสารสนเทศในโรงเรียน1. ผู้รับผิดชอบและประสานงานวิเคราะห์ความต้องการข้อมูลโดยดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้1.1 จำแนกรายการประเภทข้อมูลให้ครอบคลุมการดำเนินงานของโรงเรียนทุกท่าน ทั้ง ด้านวิชาการ ธุรการ บุคลากร การบริหารงานทั่วไป1.2 ปรับปรุงแบบเก็บข้อมูลให้กะทัดรัด ชัดเจน เข้าใจง่าย สะดวกต่อการใช้ง่ายต่อการ เก็บรักษา และลดความซ้ำซ้อนของงานโดยไม่จำเป็น สร้างเครื่องมือเก็บให้สอดคล้อง กับลักษณะของข้อมูลและแหล่งข้อมูล เช่น แบบสำรวจ แบบรายงาน หรือ แบบสอบถาม เป็นต้น1.3 กำหนดระบบการรวบรวม การเก็บรักษา การทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันรวมทั้งการ นำเสนอและการใช้ข้อมูล1.4 นำผลที่ได้จาก ข้อ 1.1 - 1.3 ไปชี้แจงตกลงร่วมกันกับ ครูทั้งโรงเรียน เพื่อให้เกิดความ เข้าใจและยอมรับร่วมกัน
2. จัดระบบสารสนเทศตามที่ได้ตกลงกันไว้
3. ทดลองใช้ระบบสารสนเทศระยะหนึ่งแล้วปรับปรุงให้เหมาะสมได้ประโยชน์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4. แต่ละงาน ฝ่าย และผู้บริหารระบุรายการข้อมูลที่ใช้ปฏิบัติงาน และให้บริการตามลำดับความจำเป็นก่อนและหลัง อาจรวบรวมในเวลาที่ต่างกัน แล้วแต่ความสะดวกรวดเร็ว และทันต่อการนำไปใช้ เช่น อาจเก็บข้อมูลเป็นวัน สัปดาห์ เดือน ภาคการศึกษา ปีการศึกษา หรือปีงบประมาณเป็นต้น และให้สอดคล้องกับกำหนดวันจัดเก็บข้อมูลของสำนักการศึกษา
5. ประสานงานกับผู้พัฒนาโปรแกรมให้มีชุดคำสั่งในการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ (Back up Data) เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
6. จัดทำเอกสาร คู่มือ การใช้งานของโปรแกรมต่างๆ สำหรับให้ศึกษาเพิ่มเติม ได้ตลอดเวลา
7. มีการตรวจสอบข้อมูล คือ มีความเป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่เกิดทันต่อการใช้งาน มีความเที่ยงตรง ตามเนื้อหาของสาระสนเทศที่ต้องการบุคลากร
ผู้ให้ข้อมูล นางสาวอัจฉรี มีสิทธิ์ หน่วยงาน โรงเรียนมีสิทธิ์ศึกษา
เขียนโดย saynumtara





งานชิ้นที่ 1

อธิบายความหมายของคำสำคัญดังต่อไปนี้พร้อมกับยกตัวอย่าง ( ศึกษากรณีศึกษาการจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศในสถานศึกษา)


ดังไปต่อนี้ 1.1 การจัดการและการบริหารหมายถึง ความสามารถในการบริหารกระบวนการอย่างเป็นระบบเป็นการกำหนดเป้าหมายและทิศทางการจัดการขององค์การนั้น ซึ่งต้องมีการวางแผนกำหนดการและจัดการทรัพยากรภายในองค์กรเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ขององค์การนั้นๆ ประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ

1.2 นวัตกรรมหมายถึง การนำสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำรวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ที่นำมาใช้ในระบบการศึกษา มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียนและช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน 1.3 ถึงเทคโนโลยีการศึกษาหมายถึง เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการหรือการใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับาถานการณ์ในการแก้ปัญหา หรือทางการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ ในการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

1.4 ข้อมูลหมายถึง ข้อเท็จจริงต่างๆที่มีอยู่ในธรรมชาติอาจเกี่ยวข้องกับบุคคลสิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่สนใจศึกษาข้อมูลมักอยู่ในรูปแบบตัวเลขตัวหนังสือรูปภาพ เป็นต้นแผนภูมิคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

1.5 สารสนเทศหมายถึง ข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลด้วยวิธีการต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายต่อผู้รับ1.6 ระบบสารสนเทศหมายถึง การนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการรวบรวมจัดเก็บโดยมีส่วนเก็บข้อมูล ผ่านกระบวนการจัดการกับข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลนั้นกลายเป็นสารสนเทศที่ดีสามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้อง

1.7 ระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษาเป็นการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อมูลบันทึกข้อมูลประมวลผล การนำข้อมูลมาใช้ในการบริหารจัดการศึกษาและใช้เป็นสื่อกลางในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ และใช้เป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอน

1.8 การสื่อสารหมายถึง กระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนหรือติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ส่งกับผู้รับสาร โดยผ่านช่องทางนำสารหรือสื่อเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันและกัน

1.9 ข่ายเครือ เป็นการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูล ใช้เครื่องพิมพ์หรือทรัพยากรทางคอมพิวเตอร์ร่วมกันได้

1.10 สื่อสารเทคโนโลยีสารสนเทศและการ เป็นการผสานเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสารโทรคมนาคมจะครอบคลุมองค์ประกอบต่างๆ 3 ดังนี้ส่วน1) สื่อสารระบบการ2) อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสาร3) ซอฟแวร์ที่ทำให้ระบบและอุปกรณ์ทำงานได้

1.11 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา หมายถึงศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการหรือการใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับการแก้ปัญหาหรือต่อการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ